เมื่อพูดถึงแกดเจ็ตจากค่าย Apple แล้ว Apple Watch ถือเป็นอุปกรณ์คู่ใจกันสำหรับคนที่เป็นสาวก Apple เลยก็ว่าได้ แต่ปัจจุบัน Apple Watch ก็มีด้วยกันหลากหลายรุ่น และมีทั้ง Apple watch GPS และ Apple watch GPS+Cellular ใครที่กำลังจะซื้อ มาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีฟีเจอร์ที่ความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ถือเป็นคำถามสำคัญสำหรับคนที่ต้องการซื้อ Apple Watch คือความแตกต่างของการทำงานทั้งสองระบบ สำหรับ GPS คือการใส่เทคโนโลยี GPS ลงไป สามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้งรับสายโทรออก ตอบข้อความ เมื่อเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth และสามารถแทรกกิจกรรมการออกกำลังกาย การเดินระหว่างวันได้ด้วย GPS แบบไม่ต้องเชื่อมต่อ iPhone ส่วนแบบ GPS+Cellular ทำงานได้ครอบคลุมแบบแรก บวกกับสามารถโทรศัพท์ รับสาย ตอบข้อความต่าง ๆ ได้แม้ไม่เชื่อมต่อกับ iPhone เนื่องจากมีการเชื่อมเบอร์โทรไว้กับสมาร์ตวอตช์
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกจอง Apple Watch ทั้ง 2 แบบ หากมองผ่าน ๆ เรียกได้ว่าแทบแยกความแตกต่างไม่ได้ แต่หากสังเกตไปที่ปุ่มหมุนด้านข้างจะเห็นวงแหวนสีแดง ซึ่งไม่มีใน Apple Watch รุ่น GPS
ส่วนต่อมาคือเรื่องของการเชื่อมต่อสัญญาณ ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักที่ทำให้ Apple Watch ทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างกัน สำหรับ Apple Watch Cellular มีการเชื่อมกับเบอร์โทรศัพท์ ทำให้แม้ว่าเราจะลืม iPhone ไว้ที่บ้านแล้วออกมาข้างนอกหรือไปวิ่งออกกำลังกาย ก็ยังสามารถโทรออก รับสาย หรือส่งและรับข้อความได้ปกติ ส่วน Apple Watch รุ่น GPS แม้จะสามารถทำการรับสาย โทรออก หรือส่งข้อความแต่ก็ทำได้เฉพาะเมื่อมี iPhone อยู่ใกล้ ๆ เท่านั้น นอกจากนี้ท้ังสองแบบยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth อีกด้วย
ทาง Apple ได้มีการระบุว่า Apple Watch ทั้ง 2 แบบใช้งานแบตเตอรีได้นาน 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้งในส่วนของแบตเตอรีสำหรับ Apple Watch GPS+Cellular จะมีระยะเวลาการใช้งานที่สั้นกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Apple Watch GPS เนื่องจากเป็นการเชื่อมต่อ 2 ระบบ แต่ผู้ใช้งานอาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมากนัก รวมถึงระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรีก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ของแต่ละคนอีกด้วย ตัวอย่างระยะเวลาการใช้งาน ดังนี้
จากราคาของ Apple Watch ทั้ง 2 แบบที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความควาดหวังว่าวัสดุที่นำมาใช้จะมีความแตกต่างด้วยเช่นกัน โดยเคสของ Apple Watch GPS ทำมาจากวัสดุอลูมีเนียม ช่วยให้ดูแข็งแรง ส่วน Apple Watch GPS+Cellular ทำมาจากวัสดุสแตนเลสและไทเทเนียม ช่วยเพิ่มความพรีเมียมและดูดียิ่งขึ้น ในส่วนของหน้าปัด Apple Watch แบบ GPS ทำมาจากกระจก Ion-X ซึ่งเป็นรอยได้ง่ายกว่า ส่วน Apple Watch แบบ GPS+Cellular หน้าปัดเป็นกระจก Sapphire Crystal เป็นรอยได้ยากกว่า สุดท้ายคือสายนาฬืกาสามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแบบ
เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มีมาให้เฉพาะใน Apple Watch GPS+Cellular เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเฉพาะใน Apple Watch Series 4 ขึ้นไป เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็ก ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับ Apple Watch ของสมาชิกในบ้านได้ จัดการ Apple Watch และแทรกข้อมูลได้ แม้สมาชิกเหล่านั้นจะมีมี iPhone ก็ตาม
ราคาเป็นปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อของหลายคน สำหรับเรื่องของราคา Apple Watch GPS+Cellular จะมีราคาที่สูงกว่าแบบ GPS อย่างแน่นอน ทั้งนี้สามารถเลือกได้จากการใช้งานส่วนตัว หากพกพาโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้ตลอดเวลา ก็สามารถเลือก Apple Watch GPS ก็เพียพอ แต่หากต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมในการเชื่อมต่อกับ Apple Watch ของสมาชิกในบ้าน และไม่ได้พบโทรศัพท์ติดตัว สามารถเลือกเป็น Apple Watch GPS+Cellular แทนได้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความแตกต่างสำหรับ Apple Watch GPS และ GPS+Cellular ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละคน แม้ทั้งสองรูปแบบจะสามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานได้เท่า ๆ กัน รวมถึงระยะเวลาในการใช้แบตเตอรีต่อการชาร์จ 1 ครั้งก็ใกล้เคียงกัน แตกต่างกันคือ การใช้งานอย่างการรับสาย โทรออก ที่ Apple Watch GPS+Cellular ทำได้ดีกว่าแถมยังมีฟีเจอร์ Family Setup มาให้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ Apple Watch สามารถเข้าไปเลือกดูพร้อมกับโปรโมชันน่าสนใจได้ที่ Dtac