สำหรับหล่าสาวกผู้ใช้ไอโฟนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ เชื่อว่ากำลังเผชิญกับปัญหาเดียวกันนั่นก็คือ ไอโฟนหน้าจอแตก ไม่ว่าจะเกิดจากทำหล่น กระแทกกับสิ่งของ หรือเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ ก็ตาม ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ สามารถเปลี่ยนได้ไม่ว่าจะจอหน้าหรือจอหลัง เรามาดูรายละเอียดกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง และไอโฟนหน้าจอแตกจะต้องเปลี่ยนจอใหม่ในราคาเท่าไหร่
ไอโฟนหน้าจอแตก เปลี่ยนใหม่ในราคาเท่าไหร่
สำหรับไอโฟนหน้าจอแตกในรุ่นต่าง ๆ ก็จะมีค่าบริการในการเปลี่ยนหน้าจอที่แตกต่างกันออกไปตามเจนเนอเรชันและตามรุ่น โดยในเว็บไซต์ของทาง support.apple.com จะมีราคาประเมินให้คร่าว ๆ ตามแต่ละรุ่นดังนี้
- iPhone 14 Pro Max ราคาอยู่ที่ประมาณ 14,990 บาท
- iPhone 14 Pro ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาท
- iPhone 14 Plus ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาท
- iPhone 14 ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone 13 Pro Max ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาท
- iPhone 13 Pro ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone 13 ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone 13 mini ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,990 บาท
- iPhone 12 Pro Max ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาท
- iPhone 12 Pro ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone 12 ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone 12 mini ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,990 บาท
- iPhone 11 Pro Max ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาท
- iPhone 11 Pro ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone 11 ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,190 บาท
- iPhone XS Max ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,499 บาท
- iPhone XS ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone X ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,299 บาท
- iPhone XR ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,190 บาท
- iPhone 8 Plus ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,090 บาท
- iPhone 8 ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,290 บาท
- iPhone 7 Plus ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,090 บาท
- iPhone 7 ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,290 บาท
- iPhone 6s Plus ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,090 บาท
- iPhone 6s ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,290 บาท
- iPhone 6 Plus ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,290 บาท
- iPhone 6 ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,690 บาท
- iPhone SE (รุ่นที่ 3) ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,690 บาท
- iPhone SE (รุ่นที่ 2) ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,690 บาท
- iPhone SE ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,690 บาท
ซึ่งสำหรับผู้ที่มีการซื้อประกัน AppleCare+ ให้เครื่องไอโฟนไว้ เมื่อไอโฟนหน้าจอแตกก็สามารถใช้ได้ จะได้รับค่าบริการและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการเปลี่ยนจอที่ถูกลง อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หรืออีกช่องทางนึง เพียงซื้อประกันดูแลเครื่องและจอแตกไว้กับ dtac mobile care ก็สามารถนำไปเปลี่ยน หรือซ่อมด้วยอะไหล่แท้ได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม สนใจลองเข้าไปดูได้ ที่นี่
AppleCare+ คืออะไร
เป็นอีกหนึ่งบริการ การรับประกันจากศูนย์ Apple สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จากค่าย เป็นประกันแบบจำกัดที่จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดความเสียหายกับตัวเครื่อง อย่างไอโฟนหน้าจอแตกนั่นเอง โดยปกติแล้วไอโฟนทุกเครื่องจะมาพร้อมการคุ้มครองเบื้องต้น คือคุ้มครองซอฟแวร์เป็นเวลา 1 ปี และบริการช่วยเหลือทางเทคนิคเป็นเวลา 90 วัน
แต่สำหรับผู้ที่ซื้อบริการ AppleCare+ จะได้รับสิทธิ์คุ้มครองดังกล่าวขยายเวลาออกไปเป็น 2 ปี พร้อมคุ้มครองเรื่องไอโฟนหน้าจอแตก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 1,000 บาทต่อครั้ง แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง และค่าธรรมเนียม 3,300 บาทสำหรับการเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า ราคาถูกกว่าการจ่ายเองทั้งหมด
สำหรับผู่ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ไอโฟนหน้าจอแตกเปลี่ยนได้ที่ไหน
สำหรับใครที่ทำไอโฟนหน้าจอแตกแล้วต้องการเปลี่ยน แนะนำให้ไปที่ร้าน Apple หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Apple เพราะจะได้อะไหล่แท้อย่างแน่นอน โดยสามารถไปเปลี่ยนได้ตามสถานที่ ดังนี้
- Apple Store สาขาเซ็นทรัลเวิร์ล
- Apple Store สาขาไอคอนสยาม
- ร้าน iStudio ตามห้างฯ ทั่วไป
- ร้าน Studio7 ตามห้างฯ ทั่วไป
วิธีป้องกันไอโฟนหน้าจอแตก
หลังจากซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การใช้งานในชีวิตประจำวันก็ควรมีการดูแลเอาใจใส่มากขึ้น มาดูกันว่าวิธีป้องกันไอโฟนจอแตกมีอะไรบ้าง
ใส่เคสไอโฟนแบบกันกระแทก
ซึ่งเคสไอโฟนก็จะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านดีไซน์ความสวยงาม แต่หากต้องการป้องกันหน้าจอด้วย ควรเลือกเคสไอโฟนที่บริเวณขอบเคสปิดขึ้นมาสูงกว่าหน้าจอเล็กน้อย เพื่อป้องกันจอหน้าเวลาหล่นหรือกระแทกพื้น ส่วนตัวเคสควรเลือกใช้แบบกันกระแทก ซึ่งทำจากวัสดุที่แข็งแรง เพื่อป้องกันกระจกตัวเครื่องไอโฟนด้านหลังแตก
ติดฟิล์มหน้าจอคุณภาพดี
ปัจจุบันในท้องตลาดมีฟิล์มติดหน้าจอเพื่อป้องกันไอโฟนหน้าจอแตกหลากหลายแบบ ทั้งที่เป็นแผ่นฟิล์ม หรือจะเป็นฟิล์มแบบกระจก โดยราคาก็จะมีหลากหลายขึ้นอยู่กับคุณภาพ ควรเลือกแบบที่แข็งแรง และติดหน้าหลัง เพื่อป้องกันหน้าจอแตกเมื่อเกิดแรงกระแทกได้
ปัญหาเรื่องไอโฟนหน้าจอแตก เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้กับหลาย ๆ คน ซึ่งทางที่ดีคือควรใช้งานอย่างระมัดระวัง หรือติดฟิล์มและใส่เคสเพื่อป้องกันเอาไว้ แต่หากไอโฟนจอแตกไปแล้วก็สามารถเช็กราคาเบื้องต้นของแต่ละรุ่น แล้วนำไปเปลี่ยนจอใหม่ได้ที่ร้านต่าง ๆ ที่ระบุไปข้างต้น และที่สำคัญใครที่เคยซื้อ AppleCare+ เอาไว้ก็อย่าลืมใช้สิทธิ์เพราะจะทำให้เปลี่ยนหน้าจอไอโฟนได้ในราคาเพียง 1,000 บาทเท่านั้นเอง
