ไม่ต้องรอให้ถึงสงกรานต์หรอกหากมือถือของเราจะเปียกน้ำ เพราะไม่ว่าจะวันไหน เวลาใด อุบัติเหตุมือถือตกน้ำก็เกิดขึ้นได้เสมอ เข้าห้องน้ำอยู่ดี ๆ อาจตกปุ๊ลงคอห่านไปต่อหน้าต่อตา หากวันนั้นมาถึงก็อย่าเพิ่งแตกตื่น เรามีทางแก้เบื้องต้นง่าย ๆ ตามนี้…
อย่ามัวแต่ตกใจอ้าปากค้าง เพราะยิ่งแช่น้ำนานเท่าไหร่ ความเสียหายก็ยิ่งมากขึ้นตาม เมื่อโทรศัพท์ตกน้ำ คว้าขึ้นมาได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีที่สุด
รวมถึงปุ่มต่าง ๆ ที่อยู่บนตัวเครื่องด้วย เพราะความชื้นจากการตกน้ำหรือแช่น้ำอาจทำให้เกิดการลัดวงจรและเสียหายหนักกว่าเดิมหรือถาวรได้
ส่วนประกอบที่ว่านี้หมายถึงซิมการ์ด เมมโมรี่การ์ด แบตเตอรี่ หน้ากาก ฝาหลัง ฯลฯ ที่สามารถถอดเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ จากนั้นให้นำผ้าหรือทิชชู่ชนิดที่ไม่มีขนมาซับน้ำออกให้แห้งและไวที่สุด
เมื่อหิว เอ๊ย เมื่อมือถือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เริ่มแห้งพอสมควรแล้ว ให้นำไปวางทิ้งไว้ในถังข้าวสารหรือในถุงพลาสติกที่บรรจุซิลิก้าเจลหรือสารกันความชื้นที่เราแอบเก็บสะสมมาจากถุงขนมต่าง ๆ เพื่อช่วยดูดความชื้นที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในส่วนของอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าความชื้นได้หายไปหมดแล้วจริง ๆ
หลังจากนำไปไว้ในถังข้าวสารจนแน่ใจว่าแห้งดีแล้ว ลองเปิดเครื่องดู หากเปิดได้ก็เช็คอาการพื้นฐานต่าง ๆ เช่น หน้าจอติดปกติไหม โทรเข้า-ออกได้หรือเปล่า ลำโพงดังหรือไม่ ปุ่มกดใช้งานได้ปกติทุกปุ่มไหม ใช้งานกล้องได้หรือเปล่า ตรวจเจอการ์ดหน่วยความจำหรือไม่ รวมถึงลองใช้เมนูฟังก์ชั่นและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ว่ายังใช้งานได้ปกติดีใช่ไหม หากไม่พบปัญหาอะไรก็อย่าเพิ่งนอนใจ หาเวลาไปเข้าศูนย์ฯ ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คอาการภายในเครื่องด้วยก็ดี
Tips
นี่คือ 5 ขั้นตอนกู้ชีพมือถือตกน้ำง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ที่ต้องมีและขาดไม่ได้คือ “สติ” เพราะโทรศัพท์ตกน้ำเป็นเรื่องธรรมชาติ หากลองแก้ไขเบื้องต้นแล้วยังไม่ได้ผล ลองไปหาทีมโมบายบัดดี้ที่ศูนย์บริการดีแทค หรือโทร 1678 dtac call center เพื่อขอความช่วยเหลือได้เลย