องค์กรยุคใหม่ผูกหัวใจนักลงทุนและพนักงานด้วยความยั่งยืน
เชื่อว่าหลาย ๆ คน น่าจะเคยได้ยินเรื่องของ ‘ความยั่งยืน’ กันมามากมาย รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ก็ได้ปรับตัวนำเรื่องของความยั่งยืนมาใช้ในองค์กรกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งคำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมองค์กรชั้นนำทั้งระดับโลก รวมถึงองค์กรในประเทศไทยเอง ต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน และไม่เพียงแต่องค์กรเท่านั้น แม้กระทั่งพนักงานรุ่นใหม่ต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืนเช่นกัน
ก่อนหาคำตอบนี้ได้ ขอชวนทุกคนมาเรียนรู้และทำความรู้จักเรื่องความยั่งยืนไปด้วยกัน
ทำไมองค์กรยุคใหม่ต้องใส่ใจความยั่งยืน
องค์การสหประชาชาติได้กล่าวถึงเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืนไว้ใน Brundtland Report (รายงานคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา) ว่าเป็นการพัฒนาโดยตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน ซึ่งการพัฒนานี้จะต้องไม่กระทบต่อทรัพยากรที่จะส่งผลต่อคนรุ่นหลัง และไม่ลดคุณภาพชีวิตในปัจจุบัน โดยเป็นการมุ่งเน้นการรักษาความสมดุลของสิ่งแวดล้อมและมนุษย์นั่นเอง
หากเราไม่เห็นความสำคัญของความยั่งยืน สิ่งที่น่ากลัวในอนาคตก็คือ เรื่องของพลังงานเชื้อเพลิงต่าง ๆ อาจหมดไป สัตว์หลายชนิดก็จะสูญพันธุ์ คุณภาพของน้ำที่ควรสะอาดถูกลดทอนลงไป อากาศบริสุทธิ์ถูกทำลาย ชั้นบรรยากาศโลกเกิดความเสียหาย แต่หากนักธุรกิจให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่ผสมผสานความยั่งยืนกันคนละไม้คนละมือ ปัญหาที่กล่าวมาก็จะเบาบางลงไปได้
ไม่น่าแปลกใจที่องค์กรในยุคนี้ต่างปรับตัวและพัฒนาความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ไปพร้อมกับการเน้นความสำคัญเรื่องความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ต่อไปจะไปสำรวจว่า ความยั่งยืนที่มาควบคู่กับการทำธุรกิจเป็นอย่างไร
ความยั่งยืนที่มาควบคู่กับธุรกิจ
สำหรับการทำธุรกิจที่ควบคู่ไปกับความยั่งยืนนี้ Talal Rafi ซีอีโอของ Sesame Associates ซึ่งเป็นตัวแทนธนาคารโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้นำระดับโลกรุ่นใหม่ของ World Economic Forum (ตำแหน่งในขณะที่บทสัมภาษณ์ได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์ Forbes เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021) ได้ให้สัมภาษณ์ในเว็บไซต์ Forbes เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า ทำไมองค์กรจึงควรเน้นเรื่องของความยั่งยืน โดยเขาเล่าถึงข้อมูลที่แบ่งออกเป็น 3 ข้อดังต่อไปนี้
1.ลงทุนได้ในระยะยาว
กว่า 90% ของเจ้าของธุรกิจและผู้บริหารต่างทราบกันดีถึงเรื่องของความยั่งยืน แต่มีองค์กรเพียง 60% เท่านั้นที่จะทำธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งตัวอย่างของนักธุรกิจระดับโลกที่ทำธุรกิจโดยเน้นความยั่งยืนเป็นหลักที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็คือ Elon Musk โดยพันธกิจหลักของ Tesla คือ เร่งการเปลี่ยนผ่านโลก สู่การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน แน่นอนว่าTesla ประสบความสำเร็จโดยการผลิตทั้งรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ รวมถึงโซลูชันด้านพลังงาน จะเห็นได้ว่า การที่ Elon Musk ทำธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนนี้ นอกจากจะทำให้โลกมีความยั่งยืนมากขึ้น ธุรกิจของ Elon Musk ก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ในระยะยาวอีกด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลของ McKinsey ก็ได้บอกไว้ว่า การมีกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนจะช่วยให้บริษัทสามารถลงทุนในระยะยาวได้
2.คนรุ่นใหม่สนใจองค์กรที่เน้นความยั่งยืน
ปัจจุบัน คนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดของประชากร การสำรวจโดย Nielsen ได้แสดงให้เห็นว่า คนรุ่นมิลเลนเนียลกำลังจะขยายเป็นสองเท่าของคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ที่เพิ่งเริ่มบอกว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนนิสัยเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญคือ เกือบ 40% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลเลือกทำงานกับบริษัทที่เน้นเรื่องของความยั่งยืน และยังเต็มใจที่จะลดค่าจ้างเพื่อทำงานในบริษัทที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อคนรุ่นมิลเลนเนียลกลายเป็นกลุ่มคนทำงานรายใหญ่ที่สุด องค์กรที่ไม่มีกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนก็อาจสูญเสียคนเก่งจำนวนมาก เพราะความยั่งยืนทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น เพราะเห็นคุณค่าในสิ่งที่บริษัทกำลังทำอยู่
3.ผู้บริโภคยอมจ่ายให้กับองค์กรที่เน้นความยั่งยืน
ในมุมของผู้บริโภคนั้น จากการศึกษาของ Nielsen พบว่า 66% ของผู้บริโภคจะยอมจ่ายมากขึ้นหากผลิตภัณฑ์มาจากแบรนด์ที่มีความยั่งยืน และ 81% ของผู้บริโภคทั่วโลกต่างก็รู้สึกไปในทำนองเดียวกันคือ องค์กรต่าง ๆ ควรหันมาใส่ใจในเรื่องของความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
ไม่เพียงองค์กรระดับโลกเท่านั้นที่ให้ความสำคัญเรื่องของความยั่งยืน องค์กรในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญก็มีจำนวนมาก แต่องค์กรที่ให้ความสำคัญด้านนี้อย่างครอบคลุมและโดดเด่นที่สุดจนทำให้ได้เป็นองค์กรที่ได้อันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับดัชนี DJSI 2021 ในหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ก็คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)
ก่อนที่จะไปสำรวจเหตุผลว่าทำไม True จึงได้เป็นอันดับ 1 ของโลกในด้านความยั่งยืนจากการจัดอันดับดัชนี DJSI เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ขอพาทุกคนไปความรู้จักกับดัชนี DJSI ที่ทั่วโลกยอมรับกันก่อน
ทำความรู้จักกับดัชนี DJSI
DJSI หรือชื่อเต็มว่า Dow Jones Sustainability Indices คือ ดัชนีที่ใช้ประเมินการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เน้นหลักในการประเมิน 3 ด้านที่เรียกว่า ESG ได้แก่ 1. การรักษาสิ่งแวดล้อม (Environment) 2. การดูแลสังคม (Social) 3. การมีธรรมาภิบาลทางธุรกิจ (Governance) ซึ่งเหตุผลที่ดัชนี DJSI ดึงความสนใจจากนักลงทุนได้มากกว่าธุรกิจที่มีแค่ผลประกอบการ นั่นก็เป็นเพราะ ดัชนี DJSI นับเป็นอีกหนึ่งเกณฑ์สำคัญของนักลงทุนที่ใช้ในการพิจารณาเพื่อจะเข้าไปลงทุนในองค์กรนั้น ๆ เพราะบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ DJSI ถือเป็นองค์กรที่มีหลักประกันถึงศักยภาพการบริหารงาน ว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและมีความยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนนั่นเอง
ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องราวขององค์กรที่ได้รับการจัดอันดับดัชนี DJSI 2021 ที่มีคะแนนรวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จากองค์กรใหญ่ 10,900 บริษัท เป็นการบอกเล่าถึงความสำเร็จนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และนักธุรกิจหน้าใหม่จะได้ประโยชน์อย่างไรจากเรื่องนี้
เผยเคล็ดลับจากองค์กรที่ได้อันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับดัชนี DJSI 2021 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)
สำหรับอันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับดัชนี DJSI 2021 ก็คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ในหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งความสำเร็จนี้ กลุ่มทรูได้ใช้ยุทธศาสตร์ 3 H’s คือ Heart Health และ Home ดังรายละเอียดต่อไปนี้
Heart เน้นเรื่องของบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้ได้ 100% รวมถึงร่วมขับเคลื่อนการศึกษาด้วยโครงการทรูปลูกปัญญา และส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยให้พร้อมเติบโตเป็นทั้งคนดีมีความสามารถมาแล้วกว่า 2.3 ล้านคน ผ่านมูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์อีดี ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนที่อยู่ในการดูแล 5,567 แห่งทั่วประเทศ
Health สร้างสรรค์นวัตกรรมเชื่อมโยงทุกความต้องการของคนไทยยุค New normal ไปกับดิจิทัลแพลตฟอร์ม TRUE VWORLD เทคโนโลยีคลาวด์ที่ครบทุกโซลูชัน ทั้ง VWORK สนับสนุนภาคธุรกิจ และ VLEARN สนับสนุนสถาบันการศึกษา นักเรียนและนักศึกษา ให้สามารถเรียนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา
Home มีการติดตั้งพลังงานสะอาดอย่างเช่น โซล่าเซลล์ที่เสาสัญญาณและชุมสาย 3,481 แห่ง ณ สิ้นปี 2021 ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 12,570 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และยังเดินหน้าขยายการติดตั้งอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าได้ 11,900 MWh ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 5,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ยุทธศาสตร์ทั้ง 3 H’s ของ TRUE ล้วนถูกนำมาใช้อย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากมองกันในแง่ของการลงทุน หลายคนคงจะคุ้นหูกันดีกับคำว่า ‘หุ้นยั่งยืน’ ซึ่ง TRUE ก็เป็นจัดเป็นหุ้นในบริษัทยั่งยืนนี้เช่นกัน
สำหรับแนวคิดของการพัฒนาองค์กรในแนวทางความยั่งยืนในแบบของ TRUE สามาถรับชมได้ในวิดีโอคลิปนี้
ดูวีดีโอ Full version ได้ที่นี่
หากเป็นการทำธุรกิจในยุคเก่า องค์กรอาจต้องผูกใจนักลงทุนด้วยเรื่องของ เงินทุน ผลกำไร ส่วนในด้านของพนักงานก็อาจคุยถึงเรื่องเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่จากเรื่องราวที่ได้เล่าสู่กันฟังด้านบน ทำให้ทราบว่า ถ้าองค์กรทำธุรกิจบนความยั่งยืน ก็จะสามารถผูกใจนักลงทุนและพนักงานได้อย่างแท้จริง
#TrueTogether #TrueDJSI #TrueSustainability
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.twi-global.com/technical-knowledge/faqs/faq-what-is-sustainability
https://www.forbes.com/sites/forbesbusinesscouncil/2021/02/10/why-corporate-strategies-should-be-focused-on-sustainability/?sh=15c69d077e9f
https://www.brandage.com/article/5184/tesla-Elon-Musk