เกษตรไทยไปไกลได้อีก! ก้าวสู่เกษตร 5G พร้อมดิจิทัลโซลูชัน ทรู ฟาร์ม

True Blog 09 มี.ค. 2566

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้เข้ามาพลิกชีวิตผู้คนและธุรกิจทุกวงการ รวมไปถึงภาคเกษตรกรรม ที่แต่เดิมต้องอาศัยปัจจัยทางธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อเข้ามาสู่ยุค 5G ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีทำให้เกิดเทรนด์โลกที่เรียกว่า ‘Smart Farming’ หรือการเกษตรอัจฉริยะ

 

ในหลายประเทศ เทคโนโลยีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเกษตรกรไปแล้ว อย่างเกษตรกรชาวเกาหลีใต้ เรียกได้ว่าเป็น Tech-Savvy ตัวจริง ก็มีสตรอว์เบอร์รี่เกาหลีที่เป็นของฝากยอดฮิตซึ่งเป็นผลผลิตของ Smart Farming โดยใช้ AI วิเคราะห์และสร้างสภาพแวดล้อมฟาร์มที่ดี และใช้ Big Data วางแผนการเกษตร ไปจนถึงใช้โดรนรดน้ำใส่ปุ๋ย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ควบคุมได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน หรือในไต้หวันก็ไม่น้อยหน้า เตรียมนำอุปกรณ์ทุ่นแรงที่สวมใส่ได้มาใช้แก้ปัญหาเกษตรกรที่อายุมากขึ้น โดยอุปกรณ์นี้ช่วยให้ยกของได้หนักขึ้นถึง 9 กิโลกรัม!

 

วงการเกษตรกรรมไทยเองก็กำลังก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน หลากหลายบริษัทเทคและสตาร์ทอัพเริ่มหันมาจริงจังกับเทคโนโลยีการเกษตร รวมถึงกลุ่มทรู ที่ได้ริเริ่มดิจิทัลโซลูชัน นำเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ผสานกับเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ทั้ง IoT, Robotics,  AI และ Analytics เข้ามาขับเคลื่อน Smart Farming ในไทยอย่างเต็มที่ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาก้าวสู่ ‘ยุคเกษตร 5G’ ไปด้วยกัน

 

 

รู้จัก ทรู ฟาร์ม มิติใหม่ของเกษตรกรรมไทยในยุค 5G

 

ถึงเวลาเปิดโลกเกษตรกรรมไทย เพื่อส่องดูว่ามีพื้นที่ตรงไหนที่เทคโนโลยีเข้าไปช่วยเติมเต็มได้บ้าง ถ้าลองมองภาพใหญ่แล้ว จะเห็นว่าเป้าหมายของเกษตรกรส่วนใหญ่คือ ต้องการลดต้นทุน ทุ่นแรง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มผลผลิต ที่สำคัญคือ การรับมือได้ดีขึ้นกับอุปสรรคที่มาทำลายผลผลิต จุดนี้เอง คือพื้นที่ว่างที่เทคโนโลยี Smart Farming จะเข้ามาช่วยเสริมได้

 

ทรู ดิจิทัล มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาให้เกษตรกรอย่างตรงจุด จึงได้คิดค้นโซลูชัน ‘ทรู ฟาร์ม’ (True Farm) เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะครบวงจรขึ้นมา  โดยพัฒนาภายใต้แนวคิดแนวคิด ‘การเกษตรแม่นยำ’ (Precision Farming) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับเกษตรกรรมไทย แนวคิดการเกษตรแม่นยำนี้จะใช้วิธีเก็บข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์เชิงลึก ทำให้สามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้ตรงจุด พร้อมวางแผนการเกษตรล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำเหลือเชื่อ

 

เบื้องหลังความสำเร็จของ ทรู ฟาร์ม ก็คือเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เร็วแรง และมีความเสถียรสูง สามารถรับและส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ที่สำคัญคือ มีการออกแบบให้ ทรู ฟาร์ม ใช้งานง่าย ถึงแม้ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีก็ใช้งานได้ จึงตอบโจทย์เกษตรกรทุกคนในการเกษตรทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เกษตรพืช หรือ ปศุสัตว์

 

เบื้องหลังความสำเร็จของ ทรู ฟาร์ม ก็คือเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เร็วแรง และมีความเสถียรสูง สามารถรับและส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ที่สำคัญคือ มีการออกแบบให้ ทรู ฟาร์ม ใช้งานง่าย ถึงแม้ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีก็ใช้งานได้ จึงตอบโจทย์เกษตรกรทุกคนในการเกษตรทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เกษตรพืช หรือ ปศุสัตว์

 

โซลูชันเพื่อลดต้นทุน แต่เพิ่มพูนผลผลิต

 

ในช่วงที่ต้นทุนต่าง ๆ ทยอยขึ้นราคา ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย น้ำ หรือยาที่ใช้กับพืช หัวใจสำคัญคือ การบริหารจัดการทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด ถ้าหากใช้ทุกอย่างได้คุ้มค่า ก็จะลดความสิ้นเปลือง และตัดต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้มากกว่าที่คิด

 

ทรู ฟาร์ม โดรน (True Farm Drone) และ ทรู ฟาร์ม โกรว์ (True Farm Grow) คือผู้ช่วยที่เข้ามาช่วยเกษตรกรไทยในด้านการบริหารจัดการทรัพยากร เริ่มที่ทรู ฟาร์ม โดรน ซึ่งเป็นโดรนบินอัจฉริยะ ทำหน้าที่ให้ปุ๋ยและยาสำหรับพืช ส่วนทรู ฟาร์ม โกรว์ คืออุปกรณ์ IoT ที่คอยให้น้ำและดูแลการเพาะปลูก โดยทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้มี AI ที่คำนวณปริมาณปุ๋ย น้ำ และยาที่เหมาะสมต่อความต้องการของพืชได้อย่างแม่นยำ มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใช้ต้นทุนอย่างเสียเปล่า ช่วยให้เกษตรกรควบคุมต้นทุนได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการใช้แรงงานได้อีกด้วย

 

เมื่อเกษตรกรลดต้นทุนได้ ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ก็ได้รับประโยชน์ไปด้วย โดยสินค้าการเกษตรก็จะมีราคาที่เอื้อมถึงได้ และยังมีคุณภาพได้มาตรฐานคงที่ หรืออาจจะคุณภาพสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

สภาพแวดล้อมที่ดี มีเทคโนโลยีอยู่เบื้องหลัง

 

เราต่างรู้ดีว่าภาวะโลกร้อนสร้างผลกระทบให้กับผู้คนทั่วโลก รวมถึงเหล่าเกษตรกรด้วย ถึงแม้ธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่เทคโนโลยีคือตัวช่วยที่ทำให้เรารับมือได้ดีขึ้น ทรู ฟาร์ม ได้สร้างโซลูชันสำหรับช่วยเกษตรกรรับมือกับสภาพอากาศ โดยการติดตั้งเซนเซอร์ไว้ใต้ดินเพื่อวัดความชื้น พร้อมนำอุปกรณ์ IoT มาปรับใช้เป็นระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ เมื่อความชื้นของดินต่ำลง ระบบจะสั่งให้รดน้ำเพิ่มตามความต้องการของพืช หรือถ้าหากมีความชื้นสูงผิดปกติ เสี่ยงที่จะมีน้ำท่วม ก็จะแจ้งเตือนไปยังเกษตรกรทันที ในสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนนี้ เกษตรกรก็ไม่ต้องนั่งเดาใจฟ้าฝนอีกต่อไป

 

ไม่ใช่แค่การปลูกพืชที่ต้องพึ่งพาลมฟ้าอากาศ อันที่จริงแล้วการเลี้ยงสัตว์ก็เช่นกัน เพราะอากาศที่แปรปรวนทำให้สัตว์ปรับตัวได้ยาก อย่างเช่น ฟาร์มไก่ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจการเกษตรที่ต้องใส่ใจในสภาพอากาศอย่างมาก True Farm Chicken จึงถูกสร้างขึ้นสำหรับฟาร์มไก่โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นระบบฟาร์มอัตโนมัติ (Farm Automation) ที่นำอุปกรณ์ IoT มาใช้ โดยมีเซนเซอร์คอยมอนิเตอร์สภาพแวดล้อมทั้งอุณหภูมิ ความชื้น แสง และความเร็วลม พร้อมรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถ้ามีความผิดปกติก็จะแจ้งเตือนได้ทันที โดยสามารถสั่งงานได้ผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้เกษตรกรมั่นใจว่าไก่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด โดยที่ตัวเกษตรกรเองไม่ต้องอยู่ที่ฟาร์มตลอดเวลาก็ได้

 

 

อีกหนึ่งประเภทของฟาร์มที่ต้องควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวังและใกล้ชิด ก็คือ กุ้ง ซึ่ง ทรู ฟาร์ม ก็เข้าใจในจุดนี้ดี จึงสร้างสรรค์ True Farm Shrimp ขึ้นมาสำหรับฟาร์มกุ้งโดยเฉพาะเช่นกัน ระบบโดยรวมก็จะทำงานคล้าย ๆ กับฟาร์มไก่ นั่นก็คือจะใช้เซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพนํ้าและรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ดูแลฟาร์มควบคุมอากาศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ อีกทั้งยังมีโซลูชันเพิ่มประสิทธิภาพในการให้อาหารกุ้ง โดยใช้กล้องและเทคโนโลยี AI วิเคราะห์พฤติกรรมของกุ้ง เพื่อปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสมด้วย

 

เทคโนโลยีฮีโร่ป้องกันโรค เพื่อฟาร์มสะอาด ปลอดโรค ปลอดภัย

 

ศัตรูตัวฉกาจของเหล่าเกษตรกรมาในรูปแบบของ ‘โรค’ โดยเฉพาะฟาร์มสัตว์ที่ต้องเผชิญโรคร้ายอย่างไม่คาดคิดอยู่บ่อย ๆ เราจึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ป้องกันโรคอีกขั้น กรณีตัวอย่างคือ ในฟาร์มหมู ที่มีการนำโซลูชัน True Farm Pig  มาใช้โดยติดตั้งอุปกรณ์ IoT ทั่วฟาร์ม คอยตรวจสอบและรายงานสภาพแวดล้อมของโรงเรือนเลี้ยงหมู โดยที่เกษตรกรไม่ต้องเข้าไปในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังใช้กล้องตรวจจับและวิเคราะห์พฤติกรรมของหมู ซึ่งจะช่วยให้ตรวจพบหมูที่เริ่มมีอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สัตวแพทย์เข้าดูแลและทำการรักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาดในสัตว์ที่จะกระทบต่อปริมาณผลผลิต และยังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน รวมถึงมีระบบตรวจสอบความสะอาดของคนหรือสัตว์ใหม่ที่จะเข้าไปในฟาร์ม เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีพาหะนำโรคเข้ามาปะปน

 

 

ในส่วนของวัว โรคที่ต้องระวังคือโรคลัมปี สกิน ที่เคยสร้างความเสียหายให้ฟาร์มมานับไม่ถ้วน แต่ในวันนี้ เกษตรกรเบาใจได้มากขึ้น เพราะสามารถดูแลสุขภาพของวัวและกระบือได้อย่างใกล้ชิด กับเทคโนโลยี True Farm Cow ที่มาพร้อมแท็กติดหูและสายคล้องคอตรวจวัดพฤติกรรมการเคลื่อนไหว การกิน และการเคี้ยวเอื้อง เพื่อประเมินสุขภาพของสัตว์ได้ พร้อมส่งข้อมูลไปยังเกษตรกรได้ทันทีคล้ายกับสมาร์ทวอทช์ของคน ซึ่งช่วยในการดูแลวัวแต่ละตัวได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ สำหรับเกษตรกรโคนม True Farm Cow ยังช่วยให้ผู้เลี้ยงวัวนมไม่พลาดช่วงของการทำการผสมเทียมวัวนม จึงช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น ขณะเดียวกันระบบก็ยังทำหน้าที่ดูแลสภาพแวดล้อมและความสะอาดภายในฟาร์มไปด้วย นับเป็นการป้องกันโรคในทุก ๆ ทาง

 

การนำ ทรู ฟาร์ม เข้ามาใช้ ยังช่วยการันตีความสบายใจของผู้บริโภคไปด้วย เพราะเมื่อมีเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วย ก็เป็นการตอกย้ำคุณภาพและมาตรฐานเรื่องของสะอาดปลอดภัยของเนื้อสัตว์ที่มาจากฟาร์มได้นั่นเอง

 

เกษตรกรรมยุค 5G ที่จะกำหนดอนาคตประเทศไทย

 

ถึงตรงนี้ เชื่อว่าเราคงได้เห็นกันแล้วว่าเทคโนโลยีจะสามารถเข้ามาช่วยเกษตรกรได้มากขนาดไหน เกษตรกรไทยจำนวนมากก็อยู่ในช่วงที่กำลังเรียนรู้และปรับใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มที่ และหลายภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมผลักดันด้วยความหวังที่จะเห็น Smart Farming ประสบความสำเร็จในประเทศไทย

 

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตคนไทยยังคงต้องพึ่งพาเกษตรกรรม ทั้งการจ้างงานในภาคเกษตรซึ่งเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของแรงงาน อีกทั้งการเกษตรยังนับเป็น ‘ครัว’ ของคนทั้งประเทศ การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรไทยจึงไม่ได้ส่งผลดีเพียงแค่กับกลุ่มเกษตรกร แต่ยังสร้างประโยชน์ให้กับคนทั้งประเทศไทยเลยก็ว่าได้ นี่คืออีกหนึ่งความมุ่งมั่นของกลุ่มทรูที่จะนำเทคโนโลยีส่งเสริมเกษตรกรไทยทุกคน เราเชื่อว่า เกษตรกรไทยจะสามารถใช้เทคโนโลยียกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาการผลิต และช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเกษตรไทยก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยุค 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อ้างอิง: