ทิปส์เด็ด

การใช้เน็ตมือถือแชร์สัญญาณ WiFi Hotspot หรือใช้ Pocket WiFi เป็นตัวกระจายสัญญาณเน็ต เป็นที่นิยมกันมานานแล้ว เนื่องจากเป็นวิธีที่ทั้งประหยัด และง่ายต่อการใช้งานของทุกคน โดยมือถือหลายแบรนด์ได้มีการพัฒนาให้สามารถกระจายสัญญาณ WiFi ได้ รวมทั้งอุปกรณ์ Pocket WiFi ก็มีราคาที่ถูกลง จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ทั้ง 2 สิ่งนี้ กลายเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเชื่อมต่อใช้งานอินเทอร์เน็ตกับโน๊ตบุ๊ค หรือเครื่องคอมตั้งโต๊ะที่บ้าน แต่ก่อนที่คุณจะลุกไปตัดสายเน็ตบ้าน แล้วหันไปเลือกใช้เพียงแค่เน็ตมือถือในการกระจายสัญญาณเน็ตทั่วบ้าน วันนี้ทรูออนไลน์จะลองมาวิเคราะห์คร่าวๆ ให้เห็นถึงข้อเด่นข้อด้อย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้งานได้เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละครอบครัว 

ประเภทอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการในแต่ละพื้นที่
ปัจจุบันผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือได้เปิดให้ใช้สัญญาณ 5G และ 4G ครอบคลุมในหลายพื้นที่ ซึ่งถ้าคุณใช้งานบริการ 5G ก็จะได้รับความเร็วสูงสุดถึง 1 Gbps ซึ่งเพียงพอกับการใช้ดูยูทูป เล่นเกมออนไลน์ หรือดูทีวีออนไลน์ ทำให้คุณพบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ไม่แลค ไม่สะดุด อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่ก็มีเพียงแค่สัญญาณ 4G ให้บริการเท่านั้น ซึ่งความเร็วก็อาจไม่ได้เพียงพอกับการใช้งานข้างต้น ทำให้คุณประสบปัญหาเน็ตอืดเน็ตช้าตามมา ดังนั้นก่อนตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เน็ตมือถือในการปล่อยสัญญาณเน็ต คุณอาจต้องตรวจสอบดูก่อนว่าพื้นที่ที่ต้องการใช้งานมีสัญญาณ 5G ครอบคลุมแล้วหรือยัง เพราะหากอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณ 5G ยังไม่ครอบคลุม การติดตั้งเน็ตบ้านก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากการเดินสายเน็ตไฟเบอร์ที่มีความครอบคลุมหลายพื้นที่มากกว่า

ใช้งานคนเดียว หรือ ใช้งานแบบครอบครัว
หากคุณตรวจสอบแล้วว่าพื้นที่ที่คุณอยู่มีสัญญาณ 5G ให้บริการ และต้องการใช้เน็ตมือถือแชร์สัญญาณแทนการใช้เน็ตบ้าน สิ่งต่อไปที่จะต้องคำนึงถึงก็คือ ควรสำรวจว่ามีคนในบ้านใช้งานเน็ตมือถือร่วมกับเราทั้งหมดกี่คน ซึ่งคุณอาจจะต้องสอบถาม และตรวจสอบไลฟ์สไตล์การใช้งานของแต่ละบุคคล เพื่อมาคำนวนด้วยว่าต้องใช้เน็ตเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอให้ทุกคนในบ้านใช้งานได้อย่างราบรื่น 

หากคุณอยู่คนเดียว และไม่ได้ต้องแชร์เน็ตกับใคร ก็อาจเป็นไปได้ที่จะใช้เพียงเน็ตมือถือ เพื่อการใช้งานทั่วๆไป และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องที่บ้าน อาจจะต้องสมัครเป็นแพ็กเกจมือถือแบบเน็ต 5G ไม่อั้น เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา ความเร็วเน็ตที่ลดลง ในกรณีที่คุณใช้งานเน็ตครบตามปริมาณที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่กับครอบครัว 3-4 คนขึ้นไป และแต่ละคนมีอุปกรณ์ที่ต้องใช้เน็ตพร้อมๆกัน การมีเน็ตบ้านก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด 

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าต้องใช้ความเร็วเน็ตบ้านเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมกับกิจกรรมการใช้งานของทุกคนในบ้าน สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ “ความเร็วเน็ตบ้าน 300 Mbps เร็วแค่ไหน เพียงพอกับการใช้งานหรือไม่”

สรุปข้อดี ข้อด้อยปัจจัยต่างๆ 

ข้อดี: 

1. ติดตั้งง่าย หมายถึง การที่เราสามารถใช้มือถือ หรือ Pocket WiFi กระจายสัญญาณเน็ตไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการได้ทันที โดยที่ไม่ต้องทำการติดตั้ง หรือเดินสายอะไรทั้งนั้น    

2. ประหยัด หมายถึง การใช้งานจากมือถือของเราเอง ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือจ่ายเงินเพิ่มในการติดตั้งใดๆ ทั้งสิ้น  

ข้อด้อย: 

1. การจำกัดปริมาณเน็ต หมายถึง ผู้ให้บริการเน็ตมือถือแต่ละที่จะมีแพ็กเกจให้เลือกใช้งานทั้งแบบเน็ต 5G ไม่อั้นที่ความเร็วสูงสุด และเน็ต 5G แบบจำกัดปริมาณ ซึ่งหากคุณเลือกใช้งานเน็ตแบบจำกัดปริมาณ เมื่อใช้งานจนครบตามปริมาณที่กำหนดไว้ในแพ็กเกจแล้ว ความเร็วเน็ตมือถือก็จะลดลง และถ้าคุณต้องแชร์เน็ตมือถือเพื่อใช้งานร่วมกับคนในบ้านด้วย ความเร็วเน็ตที่ลดลง ก็ย่อมจะส่งผลให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้

2. ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่มือถือลดลง หมายถึง การที่เราใช้มือถือปล่อยสัญญาณเน็ตเป็นเวลานานๆ จะทำให้เครื่องเกิดการใช้งานที่หนักขึ้นกว่าปกติ จนส่งผลกับสุขภาพของแบตเตอรี่ และทำให้ประสิทธิภาพลดลงในที่สุด

ทั้งนี้ เพื่อการใช้งานเน็ตที่ต่อเนื่องทั้งที่บ้านและนอกบ้าน คุณอาจเลือกแพ็กเกจแบบรวมบริการ ที่ได้ทั้งเน็ตบ้าน แรงจุใจ ใช้ได้ทุกคนที่บ้าน และยังได้ซิมมือถือพร้อมเน็ต ในราคาประหยัด เช่น แพ็กรวมบริการ ราคาเริ่มต้น 599 บาท/เดือน ที่ให้เน็ตบ้านสปีด 500/500 Mbps และซิมพร้อมเน็ตมือถือ 5G/4G จำนวน 10GB ดูรายละเอียดได้ที่นี่